นายกรัฐมนตรี เปิดงานนมัสการพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประจำปี 2567 ถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระธาตุพนม ย้ำนโยบายรัฐบาล เพิ่มศักยภาพยกระดับเมืองรอง กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืนใน 3 แกนหลักสำคัญ
17 กุมภาพันธ์ 2567
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.00 น. ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงานนมัสการพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17–25 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งงานนมัสการองค์พระธาตุพนมมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เป็นงานที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระธาตุพนม โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม หัวหน้าส่วนราชการผู้บริหาร และคณะกรรมการจัดงาน ตลอดจนประชาชนเข้าร่วมงาน
นายกฯ กล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ประจำปี 2567 จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีศักยภาพในการพัฒนา มีทุนทางธรรมชาติและทุนทางวัฒนธรรม เป็นพื้นที่ที่ติดประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นข้อได้เปรียบในการพัฒนาจังหวัดให้ก้าวสู่การเป็น “เมืองน่าอยู่ ประตูเศรษฐกิจ สู่อนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง” โดยรัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนการยกระดับเมืองและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยจังหวัดนครพนมเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการเร่งรัดการพัฒนาจังหวัดนครพนม และเพิ่มศักยภาพในการยกระดับเมืองรอง ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืนใน 3 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ การเพิ่มศักยภาพโดยการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ในทุกมิติ การสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี และการช่วยเหลือเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
นายกฯ กล่าวว่า การจัดงานประเพณีนมัสการพระธาตุพนมในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าจังหวัดนครพนม มีความพร้อมที่จะเป็นต้นแบบในการยกระดับเมืองรองสู่เมืองหลัก เป็นเมืองที่น่ามาเยี่ยมชม มากราบนมัสการขอพรพระธาตุพนม ตลอดจนพระธาตุประจำวันเกิด ทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำโขงที่สวยงาม มีอาหารอร่อย มีวัฒนธรรมที่งดงามเป็นอัตลักษณ์ของชนเผ่าที่สามารถพัฒนาต่อยอด และเชื่อมโยงให้เกิดการท่องเที่ยวรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในจังหวัดนครพนมเพิ่มขึ้น เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และขอขอบคุณทุกส่วนราชการ คณะกรรมการจัดงาน ผู้บริหารหน่วยงานต่าง ๆ ที่ให้ความร่วมมือในการจัดงานในครั้งนี้
สำหรับองค์พระธาตุพนมเป็นปูชนียสถานสำคัญที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่เคารพของประชาชนในพื้นที่มาเป็นเวลาอันยาวนาน สันนิษฐานว่าสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 15-16 โดยที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 41 ณ สาธารณรัฐโปแลนด์ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ได้พิจารณาให้พระธาตุพนมบรรจุในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก (World Heritage Centre) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา การเตรียมการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องและการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ